สวัสดีค่าวันนี้เราจะมาเราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนขึ้นเขียงทำศัลยกรรม
วันนี้เราจะพาเครื่องบินไปที่เกาหลีไปดูว่าก่อนที่เราจะขึ้นเขียงศัลยกรรมนอนสลบไสล 10 กว่าชั่วโมงเราต้องทำอะไรบ้างนะคะ มีการพูดคุยปรึกษากับคุณหมอยังไงบ้าง แล้วก็ต้องทำยังไง ต้องตรวจอะไรตรงไหนยังไง โรคไหนที่ทำศัลยกรรมได้ไม่ได้ เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้ สำหรับบทความในวันนี้เราก็จะมีการสอดแทรกเรื่องราวตอนที่อยู่ตอนที่เกาหลีได้เป็นความรู้
เตรียมตัวก่อนขึ้นเขียงทำศัลยกรรมที่เกาหลี
วันที่ไปถึงโรงพยาบาลศัลยกรรมวันแรกเข้าไปที่ชั้นรีเซฟชั่นของเขาซึ่งจะอยู่ชั้นประมาณ 10 กว่าๆ เนี่ยแหละ จำไม่ค่อยได้ไม่แน่ใจนะ ก็จะเข้าไปทำการกรอกประวัตินะคะ ซึ่งกรอกประวัติเนี่ยเราก็จะทำใน ipad นะคะคื อมีหลายคนถามว่าเวลาเราไปแล้วคุยกับคุณหมอเป็นภาษาอะไรก็เป็นภาษาไทยเลย ทางโรงพยาบาลเขาก็จะมีล่ามแปลภาษาให้เรา เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องการสื่อสารเพราะว่าหลายคนกลัวว่าพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ไปแล้วจะคุยกับหมอไม่รู้เรื่อง หมดกังวลข้อนี้ไปได้เลยนะคะ
สำหรับการกรอกประวัติก็จะให้กรอกข้อมูลว่าเราไม่ชอบส่วนไหนบนใบหน้า มีโรคประจำตัวอะไรไหม กรุ๊ปเลือดกรุ๊ปอะไร แล้วตอนนี้อายุเท่าไร ก่อนหน้านี้เคยทำศัลยกรรมมาก่อนไหม แล้วตรงไหนที่เราต้องการจะแก้หรือทำศัลยกรรมมากเป็นพิเศษ รวมรวมแล้วก็คือกรอกประวัติส่วนตัวเข้าคร่าวๆ เพื่อให้ทางโรงพยาบาลและคุณหมอได้รู้ว่าเราเคยทำอะไรมาบ้าง สำหรับใครที่เคยทำอะไรมาไม่ว่าจะเป็นการฉีด botox ฉีดฟิลเลอร์ก็อยากให้เขียนลงไปในประวัติด้วยว่าว่าเราเคยทำมาหมอจะได้ทราบแล้วก็เข้าใจว่าหน้าของเราเคยเป็นแบบไหนมาก่อน
หลังจากที่กรอกประวัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขอแนะนำว่าในชั้นที่เรากรอกประวัติเขาก็จะมีคาเฟ่มีร้านกาแฟให้เรากินฟรี แล้วก็จะมีบาริสต้าแบบว่าหน้าตาดีมาก ไปแล้วก็อย่าลืมสั่งกาแฟกินกันด้วยนะคะ เขาเป็นบริการฟรี หลังจากที่เรากรอกประวัติเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณพยาบาลคนสวยเขาก็จะพาเราขึ้นไปยังชั้นที่เอาไว้ตรวจร่างกาย การตรวจร่างกายของโรงพยาบาลที่นี่นะคะคือทำเยอะมากๆ เลยมีหลายขั้นตอนมากๆ
ตรวจร่างกายก็จะมีการตรวจเลือด ตรวจค่าตับ ความเข้มข้นของเลือด โรคประจําตัว ความดัน อัลตร้าซาวด์หน้าอก เอกซเรย์ทรวงอก ตรวจวัดคลื่นหัวใจ เอกซเรย์โครงหน้า TC scan นะคะ ไปถึงเขาก็จะให้เปลี่ยนชุดก่อนแล้วก็ตรวจร่างกายถือว่าที่นี่ตรวจละเอียดมากๆ เพราะฉะนั้นเนี่ยใครที่มีโรคประจำตัวต้องแจ้งทางโรงพยาบาลให้หมด การตรวจร่างกายก็ค่อนข้างใช้เวลานานนิดนึง เพราะเค้าตรวจค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยทีเดียวเพื่อความปลอดภัยของคนไข้นั่นเอง
